Palita Library & Mon LiteratureMuseum - 4PQJ+M2F Palita Library & Mon LiteratureMuseum

4.1/5 ပေါ်အခြေခံကာ 8 သုံးသပ်ချက်

Contact Palita Library & Mon LiteratureMuseum

လိပ်စာ-

Ka Mar Wet, Myanmar (Burma)

အမျိုးအစားများ
မြို့ : Ka Mar Wet

Ka Mar Wet, Myanmar (Burma)
k
kyaw soe on Google

J
John Shushi on Google

แม่แดง หางดำ on Google

ประวัติ​ศาสตร์​ ชาติมอญ รวบรวมหนังสือ ตัวหนังสือ ชีวประวัติของชาติมอญได้เป็นอย่างดี.. มอญเป็นชนชาติเก่าแก่ มีอารยธรรมรุ่งเรืองมากชนชาติหนึ่ง จากพงศาวดารพม่ากล่าวว่า "มอญเป็นชนชาติแรกที่ตั้งถิ่นฐานอยู่ในพม่า มาเป็นเวลาหลายศตวรรษก่อนคริสตกาล" คาดว่าน่าจะอพยพมาจากตอนกลางของทวีปเอเชีย เข้ามาตั้งอาณาจักรของตนทางตอนใต้ บริเวณลุ่มแม่น้ำสาละวิน และแม่น้ำสะโตง ซึ่งบริเวณนี้ในเอกสารของจีนและอินเดียเรียกว่า "ดินแดนสุวรรณภูมิ" ในพุทธศตวรรษที่ 2 ศูนย์กลางของอาณาจักรมอญคืออาณาจักรสุธรรมวดีหรือสะเทิม (Thaton) จากพงศาวดารมอญกล่าวไว้ว่าอาณาจักรสะเทิมสร้างโดยพระราชโอรส 2 พระองค์ของพระเจ้าติสสะแห่งแคว้นหนึ่งของอินเดีย ก่อนปี พ.ศ. 241 พระองค์นำพลพรรคลงเรือสำเภามาจอดที่อ่าวเมาะตะมะ และตั้งรากฐานซึ่งต่อมาเป็นที่ตั้งของเมือง อาณาจักรสะเทิมรุ่งเรืองมากมีการค้าขายติดต่ออย่างใกล้ชิดกับประเทศอินเดียและลังกา และได้รับเอาอารยธรรมของอินเดียมาใช้ ทั้งทางด้านอักษรศาสตร์ และศาสนา โดยเฉพาะรับเอาพุทธศาสนานิกายเถรวาทมา มอญมีบทบาทในการถ่ายทอดอารยธรรมอินเดียไปยังชนชาติอื่นอย่างเช่น ชาวพม่า ไทย และลาว เจริญสูง มีความรู้ดีทางด้านการเกษตร และมีความชำนาญในการชลประทาน โดยเป็นผู้ริเริ่มระบบชลประทานขึ้นในลุ่มน้ำอิรวดีทางตอนกลางของประเทศพม่า พวกน่านเจ้าเข้ามาทางตอนเหนือของพม่าและทำสงครามกับพวกปยู อาณาจักรมอญที่สะเทิมขยายอำนาจขึ้นไปทางภาคกลางของลุ่มแม่น้ำอิรวดีระยะหนึ่ง แต่เมื่อชนชาติพม่ามีอำนาจเหนืออาณาจักรปยู และได้ขยายอำนาจลงมาทางใต้เข้ารุกรานมอญ มอญจึงถอยลงมาดังเดิมและได้สร้างเมืองหลวงขึ้นใหม่ เมื่อปี พ.ศ. 1368 ที่ หงสาวดี พระเจ้าอโนรธา กษัตริย์พม่าแห่งพุกาม ยกทัพมาตีอาณาจักรสุธรรมวดีและกวาดต้อนผู้คน ทรัพย์สมบัติ พระสงฆ์ พระไตรปิฎก กลับไปพุกามจำนวนมาก ต่อมาระหว่างปี 1600-1830 กรุงหงสาวดี ตกอยู่ใต้อำนาจพุกาม แต่กระนั้นพม่าก็รับวัฒนธรรมมอญมาด้วย ไม่ว่าจะเป็นภาษามอญได้แทนที่ภาษาบาลีและสันสกฤตในจารึกหลวง และพุทธศาสนานิกายเถรวาทได้เป็นศาสนาที่นับถือสูงสุดในพุกาม มอญยังมีความใกล้ชิดกับลังกา ซึ่งขณะนั้นเป็นศูนย์กลางของพุทธศาสนานิกายเถรวาท และนิกายเถรวาทก็แพร่กระจายไปทั่วเอเชียอาคเนย์ พระเจ้าจั่นซิตาทรงดำเนินนโยบายผูกมิตรกับราชตระกูลของพระเจ้ามนูหะ กษัตริย์มอญแห่งสะเทิม โดยยกพระราชธิดาให้กับเจ้าชายมอญ พระนัดดาที่ประสูติจากทั้งสองพระองค์นี้ ก็ขึ้นครองราชย์ต่อจากพระองค์ พระนามว่า พระเจ้าอลองสิธู ในยุคที่พระองค์ปกครองอาณาจักรพุกามได้รวมตัวกันเป็นปึกแผ่นมากที่สุด นอกจากนี้ในสมัยของพระเจ้าจั่นซิตามีศิลาจารึกยกย่องไว้ว่า วัฒนธรรมมอญเหนือกว่าวัฒนธรรมพม่าอีกด้วย ต่อมาในปี พ.ศ. 1830 จักรวรรดิมองโกลยกทัพมาตีพุกาม ทำให้มอญได้รับเอกราชอีกครั้ง มะกะโท หรือพระเจ้าฟ้ารั่ว ราชบุตรเขยของพ่อขุนรามคำแหงได้ทรงกอบกู้เอกราชมอญจากพม่า และสถาปนา อาณาจักรหงสาวดี พระองค์มีมเหสีเป็นราชธิดาของพ่อขุนรามคำแหง มีศูนย์กลางการปกครองอยู่ที่เมาะตะมะ ต่อมาในสมัยพระยาอู่ ได้ย้ายราชธานีมาอยู่ ณ เมืองพะโคหรือหงสาวดี ราชบุตรของพระองค์คือพญาน้อย ซึ่งต่อมาก็คือ พระเจ้าราชาธิราช ผู้ทำสงครามยาวนานกับกษัตริย์พม่าอังวะ ในสมัยพระเจ้าสวาซอเก กับสมัยพระเจ้ามิงคอง (คนไทยเรียกว่า พระเจ้าฝรั่งมังฆ้อง ในหนังสือเรื่อง ราชาธิราช) ขุนพลสำคัญของพระเจ้าราชาธิราช ก็คือ สมิงพระราม ละกูนเองและแอมูน-ทยา ในสมัยของพระเจ้าราชาธิราชนั้นหงสาวดีกลายเป็นอาณาจักรที่มีอาณาเขตกว้างใหญ่ ครอบคลุมตั้งแต่ชายฝั่งทะเลอ่าวเบงกอลจากแม่น้ำอิรวดีขยายลงไปทางตะวันออกถึงแม่น้ำสาละวิน และเป็นศูนย์กลางทางการค้าที่ใหญ่โตมีเมืองท่าที่สำคัญหลายแห่งในหลายลุ่มน้ำ เช่น เมาะตะมะ สะโตง พะโค พะสิม อาณาจักรมอญยุคนี้เจริญสูงสุดในสมัยพระนางเชงสอบูและสมัยพระเจ้าธรรมเจดีย์ หลังจากนั้นในสมัยพระเจ้าสการะวุตพีหงสาวดีก็เสียแก่พระเจ้าตะเบ็งชะเวตี้ ในปี พ.ศ. 2081 พ.ศ. 2283 สมิงทอพุทธิเกศ กู้เอกราชคืนมาจากพม่าได้สำเร็จ และสถาปนา อาณาจักรหงสาวดีใหม่ทั้งได้ยกทัพไปตีเมืองอังวะ ในปี พ.ศ. 2290 พญาทะละได้ครองอำนาจแทนสมิงทอพุทธิเกศ ขยายอาณาเขตอย่างกว้างขวางทำให้อาณาจักรตองอูของพม่าสลายตัวลง จนในปี พ.ศ. 2300 พระเจ้าอลองพญา ก็กู้อิสรภาพของพม่ากลับคืนมาได้ ทั้งยังได้โจมตีมอญ กษัตริย์องค์สุดท้ายของมอญคือ พระเจ้าพญามองธิราชหรือพญาทะละ[2]
History of Mon Nation, collects books, texts, biography of the Mon nation as well .. Mon is an ancient nation. There was a very prosperous civilization. From the Burmese chronicle said "Mon was the first nation to settle in Burma. For many centuries BC, it is thought that immigrants came from the middle of Asia to establish their kingdom in the south. The Salween and Satong River basin, which this area in China and India documents is called. "Suvarnabhumi Land" In the second century AD, the center of the Mon Kingdom was the Suthammavadi, or Thaton, from the Mon chronicles it said that the Satom kingdom was created by two sons of God Tissa of a region of India before the year. A.D. 241. He led the corpses into a junk boat and landed at Mo Tama Bay and set up the foundation which later became the city. The Saton Kingdom was very prosperous and had close trade with India and Lanka. And adopted the civilization of India Both in literature and religion, especially adopting Theravada Buddhism Mon plays a role in the transmission of Indian civilization to other peoples such as Burmese, Thai and Lao people, have a good knowledge of agriculture. And have expertise in irrigation It is the pioneer of the irrigation system in the Irrawaddy River Basin in central Burma. The Nan Chao came to northern Burma and waged war against the Payu Kingdom, the Mon Kingdom where the Satem extended its power to the central part of the Irrawaddy River Basin for a while. But when the Burmese people have power over the Pyu kingdom And expanded its power south to invade Mon Mon then retreated as before and built a new capital in the year 1368 at Hongsawadee. Anoratha, the Burmese king of Bagan, has attacked the Suthammavadi Kingdom and forcibly wiped away many people, treasures, monks and Tripitaka back to Bagan. Later, between 1600-1830, the capital of Hongsawadee fell under the power of Bagan. Nonetheless, Burma also accepts Mon culture. Whether Mon has replaced Pali and Sanskrit in the royal inscriptions And Theravada Buddhism is the most revered religion in Bagan. Mon is also very close to Lanka. Which at that time was the center of Theravada Buddhism And Theravada sect spread throughout Southeast Asia King Chan Sita has made a policy of friendship with the royal family of Manuha. King Mon of Satem By raising his daughter to Prince Mon The nephew born of these two Went on to reign after him The name of Alonsithu in the era of the Bagan rule was the most united. In addition, in the days of the Lord Chan Sita has a stone inscription praising that Mon culture is superior to Burmese culture as well. Later in the year 2000 1830 The Mongol Empire hits Bagan. Mon has gained independence again. Makato or King Fah Ruea, the son-in-law of Pho Khun Ramkhamhaeng, has saved Mon independence from Burma. And established the Kingdom of Hongsawadee. He has a wife as the daughter of King Ramkhamhaeng. There is a administrative center at Mootama. Later in the reign of Phraya U moved the capital to the city of Pako or Hongsawadee. His son is Phaya Noi. Which later was King Rachathirat, who waged a long war with Burmese King Angwa In the days of King Swaziland and King Ming Kong (Thai people called God Manggong In the book about Rajathirat), the important generals of King Rajathirat are Saming Rama Lakoon and Amoon-Thaya. In the days of the King Rama IX, Hongsawadee became a vast kingdom. It spans the coast of the Bay of Bengal from the Irrawaddy River extending eastward to the Salween River and is a huge commercial center with many important port cities in many watersheds. Such as Mo Tamasatong Pako Phasim Mon Kingdom, this era was the most prosperous during the reign of Queen Cheung Sabu and the reign of King Dhammajedi, after that in the reign of King Scarawut Phi Hongsawadee, he lost to King Tabeng Chaweti. In the year 2081 2283 BC Soming Tho Putthiket successfully recovered independence from Burma And established the new Hongsawadee Kingdom, and raised an army to hit the city of Angwa in the year 2290. Phaya Thala took power instead of Smingtho Putthiket Extensive expansions caused Burma's Taungoo Kingdom to dissolve until in 1757, King Alongpaya restored Burma's independence. And also attacked Mon Mon is the last king. Phra Phaya Mongthirat or Phaya Thala [2]
k
ko yin on Google

amazing
n
naing win on Google

Good
y
ye naing on Google

Great place to visit.
m
mhem layeepong on Google

Love it
ဗျူဟာ မန် on Google

Verry good this place, there are many of Mon literature or Mon history.

Write some of your reviews for the company Palita Library & Mon LiteratureMuseum

သင့်သုံးသပ်ချက်များသည် အချက်အလက်ရှာဖွေခြင်းနှင့် အကဲဖြတ်ခြင်းတွင် အခြားဖောက်သည်များအတွက် များစွာအထောက်အကူဖြစ်စေပါမည်။

အဆင့်သတ်မှတ်ချက် *
သင့်သုံးသပ်ချက် *

(Minimum 30 characters)

မင်းနာမည် *